นี่คือวิธีการใช้น้ำหอมของคุณ ให้ติดทนนานมากยิ่งขึ้น
คุณผู้หญิง คุณผู้ชายเคยสงสัยบ้างไหมว่า ทำไมน้ำหอมของคุณถึงอยู่ได้ไม่นาน ฉีดแปบเดียวกลิ่นก็จางหายไป? แต่คำตอบก็คือคุณใช้น้ำหอมอย่างไร (และที่ไหน)
ไม่ต้องเป็นกังวล วันนี้เราได้รวบรวมวิธีใช้น้ำหอม 11 วิธีง่ายๆ เพื่อช่วยให้คุณใช้น้ำหอมติดทนนานหลายชั่วโมง
เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน
- เคล็ดลับการใช้น้ำหอม #1: สเปรย์บนเสื้อผ้า
- เคล็ดลับการใช้น้ำหอม #2: อย่า! ฉีดน้ำหอมในอากาศ
- เคล็ดลับการใช้น้ำหอม #3: ฉีดลงบนหลังหู
- เคล็ดลับการใช้น้ำหอม #4: อย่าเก็บน้ำหอมไว้ในห้องน้ำ
- เคล็ดลับการใช้น้ำหอม #5: ทาวาสลีนในตอนแรก
- เคล็ดลับการใช้น้ำหอม #6: ใช้โลชั่นที่ไม่มีกลิ่นหรือมีกลิ่นอ่อน
- เคล็ดลับการใช้น้ำหอม #7: ฉีดน้ำหอมทันทีหลังจากอาบน้ำ
- เคล็ดลับการใช้น้ำหอม #8: อย่าถูข้อมือเข้าด้วยกัน
- เคล็ดลับการใช้น้ำหอม #9: ฉีดน้ำหอมบริเวณชีพจร
- เคล็ดลับการใช้น้ำหอม #10: ฉีดน้ำหอมลงบนแปรงหวีผม
- เคล็ดลับการใช้น้ำหอม #11: ผสมน้ำหอมกับโลชั่น
- แชร์วิธีใช้น้ำหอมส่วนตัว
เคล็ดลับการใช้น้ำหอม #1: สเปรย์บนเสื้อผ้า
อย่ายึดติดกับการฉีดน้ำหอมลงบนร่างกาย – ฉีดให้ทั่วเสื้อผ้า เส้นใยบนเสื้อผ้าสามารถเก็บกลิ่นได้นานมาก
เคล็ดลับการใช้น้ำหอม #2: อย่า! ฉีดน้ำหอมในอากาศ
รู้ไหมว่าบางคนฉีดน้ำหอมเข้าไปในอากาศแล้วเดินผ่านมันไป? เป็นวิธีที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากกลิ่นน้ำหอมจะระเหยไปในเวลาอันสั้น ทำให้เปลืองน้ำหอมเป็นอย่างมาก การฉีดน้ำหอมสู่ผิวโดยตรงคือสิ่งที่ดีที่สุด เพื่อให้น้ำหอมอยู่กับคุณนานขึ้น
เคล็ดลับการใช้น้ำหอม #3: ฉีดลงบนหลังหู
การฉีดน้ำหอมบนหลังหูถึงจะฟังดูแปลก แต่ก็ได้ผลยิ่งผิวของคุณมีน้ำมันมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งมีกลิ่นที่ดี ติดทนนานมากขึ้น
เคล็ดลับการใช้น้ำหอม #4: อย่าเก็บน้ำหอมไว้ในห้องน้ำ
ความร้อน แสงและความชื้นจะทำให้คุณภาพ และความเข้มของน้ำหอมลดลง เราแนะนำให้เก็บขวดน้ำหอมไว้ในที่แห้งและเย็น เช่น บนโต๊ะเครื่องแป้ง ในห้องของคุณและห่างจากหน้าต่าง
KATHLEEN KAMPHAUSEN
เคล็ดลับการใช้น้ำหอม #5: ทาวาสลีนในตอนแรก
ทาวาสลีนตามจุดชีพจรก่อนฉีดน้ำหอม เพื่อให้กลิ่นหอมติดทนนาน ถูวาสลีนที่จุดชีพจรก่อนฉีดน้ำหอมเพื่อให้กลิ่นหอมติดทนนาน เนื่องจากเนื้อครีมจะจับน้ำหอมได้นานกว่า และดีกว่าผิวที่ไม่ได้ทาครีมหรือวาสลีนเลย
Vaseline Petroleum Jelly Original
เคล็ดลับการใช้น้ำหอม #6: ใช้โลชั่นที่ไม่มีกลิ่นหรือมีกลิ่นอ่อน
ทาโลชั่นที่ไม่มีกลิ่นอื่นเจือปนก่อนที่จะฉีดน้ำหอม อย่างที่ไปแล้วว่า ผิวของคนที่มีความมัน ไม่แห้งจะคงความหอมที่นานกว่า ดังนั้นการใช้มอยส์เจอไรเซอร์แบบน้ำมันก่อนจะช่วยล็อคกลิ่นให้อยู่ได้นานมากยิ่งขึ้น
เคล็ดลับการใช้น้ำหอม #7: ฉีดน้ำหอมทันทีหลังจากอาบน้ำ
ความชุ่มชื้นบนผิวของคุณจะช่วยล็อคกลิ่น นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันไม่ให้น้ำหอมเปื้อนเสื้อผ้าที่บอบบางที่สุด หรือเครื่องประดับ
เคล็ดลับการใช้น้ำหอม #8: อย่าถูข้อมือเข้าด้วยกัน
อย่าถูข้อมือหลังจากฉีดน้ำหอม หากถูข้อมือด้วยกันจะบังคับให้กลิ่นหายไปเร็วกว่าที่ตั้งใจไว้ การใช้ข้อมือถูกันหลังฉีดน้ำหอมไม่ช่วยให้น้ำหอมหอมขึ้น แต่ความร้อนจากการถูจะไปเร่งการระเหยของกลิ่น Top Notes ทำให้กลิ่นน้ำหอมจางเร็วขึ้น
KATHLEEN KAMPHAUSEN
เคล็ดลับการใช้น้ำหอม #9: ฉีดน้ำหอมบริเวณชีพจร
เพื่อให้กลิ่นของคุณใช้งานได้ยาวนานขึ้นให้เลือกจุดชีพจรสองสามจุด ซึ่งจะช่วยกระจายความหอมทั่วทั้งร่างกาย นอกจากนี้ การฉีดข้อเท้าและน่องช่วยให้กลิ่นหอมเพิ่มขึ้นตลอดทั้งวัน จุดชีพจรต่างๆ ที่:
- ข้อมือ
- ข้อพับแขน
- บริเวณคอ
- ข้อพับขา
- บริเวณหน้าอก
เคล็ดลับการใช้น้ำหอม #10: ฉีดน้ำหอมลงบนแปรงหวีผม
การฉีดน้ำหอมที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ลงบนเส้นผมโดยตรงจะทำให้ผมแห้ง ดังนั้นให้ฉีดน้ำหอมลงบนแปรงของคุณก่อนที่จะหวีผม จะทำให้เส้นผมของคุณหอมตลอดทั้งวัน
KATHLEEN KAMPHAUSEN
เคล็ดลับการใช้น้ำหอม #11: ผสมน้ำหอมกับโลชั่น
หากน้ำหอมใกล้หมด เทน้ำหอมที่เหลือผสมกับโลชั่นบำรุงผิวที่มีกลิ่นอ่อนๆ (หรือครีมทามือ) เพียงเท่านี้เราก็จะมีโลชั่นกลิ่นที่เราชอบ และน้ำหอมก็จะไม่เสียเปล่า
Do it better: น้ำหอมไม่ควรใส่มากเกินไป เพราะแทนที่จะหอมกลับทำให้คนรอบข้างเวียนหัวได้ แต่ควรใช้วิธีเติมในช่วงเวลาที่ต้องการกลิ่นหอมเป็นพิเศษ
แชร์วิธีใช้น้ำหอมส่วนตัว
ส่วนตัวเราเองจะใช้วิธีฉีดน้ำหอม ตอนหลังอาบน้ำเสร็จ ทาโลชั่นให้เรียบร้อย เราจะใช้ประมาน 3-4 จุดใน 1 วัน คือ บริเวณหลังหูทั้งสองข้าง ข้อพับแขนด้านใดด้านหนึง เพื่อที่เวลาเราขยับจะมีกลิ่นหอมตลอดเวลา ส่วนใครที่ต้องการให้มีคนหันมามอง แนะนำให้ฉีดหลังคออีก 1 จุด เวลาเดินผ่านหันมามองแน่นอน